ต้อกระจก - เป็นโรคที่เกิดในผู้สูงอายุที่ตอนนี้สามารถดูแลอาการได้เองแล้วที่บ้าน” - นายแพทย์สมพงษ์ ทองดี ได้ค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยในการใช้งานและราคาไม่แพงจากสูตรตกทอดจากบรรพบุรุษ
- สุขภาพ
- ความงาม
- ข่าวในประเทศไทย
- ผู้คน
- เรื่องราว
มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าเวลาไม่รอใคร - ต้อกระจกเป็นโรคที่พบได้มากและเกิดขึ้นได้กับทุก ๆ คนโดยความเสี่ยงก็จะเพิ่มตามอายุ และโรคต้อกระจกนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตผู้ที่เป็นได้ แต่เราจะรับมือกับโรคที่อาจจะเกิดขึ้นหรือแม้แต่เกิดขึ้นแล้วได้อย่างไร วันนี้คุณหมอสมพงษ์ ทองดี จะมาเล่าให้ฟัง
นพ.สมพงษ์ ทองดี เป็นจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์ที่เป็นที่ต้องการของประเทศไทย ศาสตราจารย์ นักวิจัยทางวิทยาศาสตร์
คุณหมอคะ จากสถิติพบว่าจำนวนผู้ป่วยโรคต้อกระจกนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี มันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรและโรคนี้มีความอันครายแค่ไหน
ต้อกระจกโรคที่เกิดขึ้นกับดวงตาโดยเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตาที่มีความขุ่น ส่งผลให้แสงเข้าไปในดวงตาไม่ได้และทำให้ดวงตาพร่ามัว การ มองเห็นจะค่อย ๆ ลดลงจนหากร้ายแรงก็อาจจะทำให้ดวงตาบอดสนิทได้
ในการปฏิบัติทางการแพทย์ได้เรียบเรียงความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจกดังต่อไปนี้:
- 90% - ผู้สูงอายุ (อายุที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรค);
- 4% - เป็นต้อกระจกหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ตาหรือศีรษะ (บาดแผล);
- 3% - ผู้ที่ได้รับรังสี (ชนิดของรังสีของพยาธิวิทยา);
- 3% - ทารกแรกเกิดที่มีพันธุกรรมที่ไม่เอื้ออำนวยหรือพัฒนาการของมดลูกผิดปกติ (พิการ แต่กำเนิด)
ตามการจำแนกประเภทและตามสถิติ ต้อกระจกโดยทั่วไปเกิดกับผู้สูงอายุ แต่อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการที่สามารถก่อให้เกิดโรคต้อกระจกได้:
- ความผิดปกติของระบบต่อมไร้ท่อ (เบาหวาน, ความผิดปกติของการเผาผลาญ);
- การขาดวิตามินที่สำคัญต่อดวงตา
- การใช้ยาบางชนิดเป็นเวลานาน
- คุณหมออธิบายโรคต้อกระจกที่เกิดจากอายุได้อย่างไรบ้างคะ
จากสถิติประมาณ 70% ของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกที่เกี่ยวข้องกับอายุเกิดขึ้นในอายุมากกว่า 70 ปี นั่นหมายความว่ายิ่งอายุมากขึ้น โอกาสที่เลนส์จะขุ่นก็จะยิ่งสูงขึ้น
แต่แม้ว่าจะมีข้อมูลอ้างอิง ต้อกระจกไม่ได้เป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น โรคนี้ไม่ได้เกิดจากการแก่ชรา แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกายตามอายุ การเปลี่ยนแปลงบางอย่างอาจเกิดขึ้นใน 40-50 ปี ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลักษณะปัจจัยเร้าส่วนตัว และปัจจัยทางพันธุกรรม
วัยชราเป็นสาเหตุหลักในที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ดวงตา ในระดับชีวเคมี กระบวนการนี้ถือว่าเป็นการเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพโดยธรรมชาติ ซึ่งทุกคนมีแนวโน้มว่ามีความเสี่ยงต่อการพัฒนาเป็นโรคต้อกระจกในระดับหนึ่ง
- คุณหมอจะจำกัดความโรคนี้ว่ายังไงบ้างคะ
- อาการที่สำคัญและพบได้บ่อยที่สุดของโรคต้อกระจกนั้นคือการที่เลนส์ตาขุ่นและเหมือนมีเนื้อเยื่อมาบดบังตา พร้อมกับการมองเห็นที่ลดลง โดยเวลามองก็จะเหมือนมีม่านหรือหมอกมาบดบังตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มีหลายกรณีที่ผู้ป่วยละเลยการมองเห็นที่แย่ลงนี้ หรือบางคนก็อาจจะไม่ได้สังเกตุเห็นเนื่องจากดวงตาที่มองเห็นปกติอีกข้างจะทำหน้าที่ชดเชยความแตกต่างในการมองเห็น เพราะฉะนั้นหมอแนะนำว่าให้ลองปิดตาแล้วใช้สายตาทีละข้างเพื่อตรวจสอบสายตา
อาการอื่น ๆ ของโรคต้อกระจกมีดังต่อไปนี้
- สายตาพร่ามัว
- ภาพสีดูเลือนลาง
- เห็นแสงรัศมีรอบวง
- ตาแพ้แสง
- ตาบอดกลางคืน
- ต้องใช้แสงมากเมื่อต้องอ่านหนังสือ
- แว่นตาไม่สามารถแก้ไขการมองเห็นที่บกพร่องได้
- จะเกิดอะไรขึ้นถ้าต้อกระจกไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ
- การลุกลามของต้อกระจกถึงขั้นรุนแรง ทำให้สูญเสียการมองเห็นซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี ในช่วงเวลานี้ การมองเห็นจะค่อยๆ เสื่อมลง ในกรณีนี้ ผู้ป่วยจะสัมผัสได้ถึงแสงเท่านั้น (ผู้ป่วยจะทราบว่าเป็นกลางวันหรือกลางคืน มืดหรือสว่าง) ระยะสุดท้ายของโรคต้อกระจกคือ สีของรูม่านตาจะเปลี่ยนไป และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (จากสีดำเป็นเฉดสีขาวหรือสีเทาอ่อนต่างๆ)
- แล้วคุณหมอแก้ไขโรคต้อกระจกในผู้ป่วยยังไงคะ
- วิธีการแก้ไขและเยียวยาเพียงอย่างเดียวคือการสลายต้อกระจกด้วยการอัลตราซาวนด์ต้อกระจก - การผ่าตัดเปลี่ยนตาเทียม แต่คนไข้ของผมไม่มีใครอยากเข้ารับการผ่าตัดเลยหรือใช้ผลิตภัณฑ์จากร้านขายยาเลย ในร้านขายยามีแต่ยาที่ไม่สามารถแก้ไขโรคต้อกระจกได้แต่ก็อาจจะแค่ชะลออาการไว้ระยะสั้น ๆ เพียงเท่านั้น
- ทำไมคนไข้เขาถึงกลัวการผ่าตัดกันคะ
- ไม่ใช่เพราะเขากลัวการผ่าตัดหรอกครับ หมอจะเล่าให้ฟัง หมอเคยมีคนไข้สูงอายุเป็นต้อกระจกเป็นผู้หญิงมาหาหมอ คุณยายคนนั้นบอกว่าทำมาหลายวิธีไปมาหลายที่แล้วก็ยังไงต้อกระจกก็ไม่หาย แล้วก็กลัวว่าจะตาบอด ตอนนั้นหมอยังไม่มีวิธีอื่น ๆ ที่มันง่ายกว่าในการแก้ไขภาวะต้อกระจกเลย และคุณยายคนไข้หมอคนนี้แหละที่ช่วยหมอและคนไข้อีกหลายคนของหมอมาจนถึงทุกวันนี้ คุณยายเป็นนักสมุนไพรและศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรมาตลอดชีวิต เพราะว่าคุณยายมีสูตรสมุนไพนที่ดีต่อดวงตามากแล้วก็พยุงอาการมาได้เรื่อย ๆ แต่ว่ายังไม่รู้วิธีที่จะทำได้ดีกว่านี้ หมอเลยสนใจว่าจะเอาสูตรนี้ไปช่วยค้นคว้าให้ เพราะว่าหมอมีเพื่อนที่ทำงานอยู่ในห้องแลป ที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการแปรรูปส่วนผสมจากธรรมชาติ เราเอาสารสกัดจากสมุนไพรพวกนั้นมาสกัดเย็นจนเราสามารถแปลงสูตรขอคุณยายได้ เราจึงนำสูตรนี้ไปให้คุณยายทดลองเพราะคุณยายปฎิเสธที่จะผ่าตัดหรือใช้วิธีอื่น ๆ
ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้คนทั้งแผนกจักษุวิทยาต้องตกใจเพราะว่าภายในหนึ่งสัปดาห์
ความขุ่นมัวและจุดสีขาวเริ่มหายไปบนรูม่านตาของคุณยาย และสองสัปดาห์ให้หลัง
การมองเห็นของเธอก็ค่อยๆ กลับมา คุณยายสามารถแยกแยะรูปร่างและเส้นได้
และหลังจากนั้นอีกสองสัปดาห์ ยายก็ไม่ได้ใส่แว่นอีก
และสิ่งนี้ได้รับการยืนยันโดยการวินิจฉัยและทดสอบสายตา
ส่งผลให้หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณยายได้ 5 สัปดาห์ ยายกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจน
นี่ทำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้แก้ไขโรคต้อกระจกเท่านั้น
แต่ยังลดอาการทางตาอื่น ๆ ด้วย
และการวิจัยของเราพิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์ในวงกว้างของผลิตภัณฑ์นี้
- แล้วคุณหมอทำอย่างไรต่อคะ
- ในฐานะนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เราทราบว่าผลิตภัณฑ์ได้ผลตอบรับดีจริง และเราได้ผลิตออกมาในรูปแบบอาหารเสริมที่ชื่อว่า "Vizinex" แต่เรายังไม่ประสบความสำเร็จที่จะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดยาได้ เพราะว่าร้านขายยาต้องการที่จะอัพราคาผลิตภัณฑ์ให้สูงจนเกินไป<.
- แล้วจะหาซื้ออาหารเสริมนี้ได้ยังไงคะ
เราสามารถหาซื้อได้ด้วยวิธีที่ง่ายมากครับ โดยทำผ่านแบบฟอร์มการสั่งซื้อออนไลน์อย่างเป็นทางการของผู้ผลิต
ตอนนี้ผู้ป่วยของหมอเป็นเพื่อนและคนรู้จักของผู้ป่วยเก่าที่หายขาดจากโรคต้อกระจกแล้วด้วยผลิตภัณฑ์นี้ นี่ไม่ใช่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นนวัตกรรมแผนปัจจุบัน ด้วยความช่วยเหลือของการประมวลผลที่ทันสมัยเท่านั้นจึงเป็นไปได้ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ทรงพลังอย่างแท้จริงสำหรับการฟื้นฟูการมองเห็น
- คุณหมอช่วยบอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารเสริมนี้หน่อยได้ไหมคะ
- ผลิตภัณฑ์นี้ใช้ในการบรรเทาและแก้ไขโรคตาเช่น สายตาสั้น ต้อหิน ต้อกระจก การอักเสบของเส้นประสาทตา โรคประสาทอักเสบ ตาแดง และโรคตาอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติโดยเฉพาะที่มีความเข้มข้นสูง - มีประโยชน์ต่อดวงตามากที่สุด โดยไม่มีสารเคมีใดๆ การสร้างผลิตภัณฑ์โดยใช้วิธีการสกัดด้วยน้ำเย็น ซึ่งทำให้สามารถรักษาองค์ประกอบทางชีวเคมีของวิตามินได้อย่างเต็มที่
สารออกฤทธิ์ของผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มระดับวิตามินที่จำเป็นสำหรับการมองเห็นให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพแน่นอน
- ขอบคุณมากค่ะคุณหมอที่กรุณาสละเวลามาในวันนี้ คุณหมอมีอะไรอยากจะฝากทิ้งท้ายกับผู้อ่านของเราไหมคะ
- ดูแลตัวเองและคนที่คุณรักให้ดีนะครับ! ในกรณีส่วนใหญ่ ความขุ่นของเลนส์เริ่มต้นจากขอบ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่นอกโซนแสง ความชัดเจนของการมองเห็นยังคงเหมือนเดิมจนถึงจุดหนึ่งเลยทำให้หลายคนละเลยหรือไม่สังเกตถึงอาการ แต่ถ้าคุณอายุ 40-50 ปีแล้ว เราขอแนะนำให้คุณเริ่มป้องกันต้อกระจกด้วยผลิตภัณฑ์นี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนและการสูญเสียการมองเห็นครับ
Iข้อมูลสำหรับท่านผู้อ่าน เราในฐานะสื่อไม่ได้ต้องการโฆษณาผลิตภัณฑ์นี้ หรือให้ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ แต่มีคำขอมากมายจากผู้อ่าน และ Vizinex กำลังได้รับความนิยม จึงมีของปลอมจำนวนมากในตลาด เราจึงได้แนบแบบฟอร์มการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้จากผู้ผลิตอย่างเป็นทางการมาไว้ที่นี่แล้ว
คุณ Vizinex ได้ช่วยเหลือคุณหรือไม่
คุณต้องลงทะเบียนเพื่อให้คะแนน
รุงนภา ใจหาญ
สามีทานมาได้เดือนนึงแล้วค่ะ ตอนนี้ถอดแว่นแล้ว และตอนนี้เราสั่งเพิ่มมาทานกันในครอบครัวด้วยค่ะ คือสายตาดีขึ้นจริง ๆ สามีไม่มีอาการปวดตาเวลาไม่ใส่แว่นเลยค่ะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧ ในเวลานั้น
หยาดฟ้า ทองเรือง
เป็นแบบเคี้ยวกินหรือว่ากลืนกับน้ำคะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
นพ.สมพงษ์ ทองดี
ดื่มกับน้ำตามปกติครับไม่ต้องเคี้ยวครับ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
สาวิตรี เนินกระโทก
ทานมาได้เดือนกว่าแล้วค่ะ รู้สึกอาการแสบตา ตาแห้งที่เป็นบ่อย ๆ ลดลงมาก ไม่ระคายเคืองที่ตาเลย แล้วก็มองเห็นชัดขึ้นด้วยเพราะว่าสามารถอ่านพวกตัวหนังสือตัวเล็ก ๆ ตามฉลากยาได้แบบไม่ต้องหรี่ตาอ่านเลยค่ะ อาการแพ้แสงจอมือถือหรือจอคอมก็ไม่มีแล้วล่ะค่ะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
กัลยา วงษ์สนิท
กินวันละเม็ดหรอคะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
นพ.สมพงษ์ ทองดี
มีคำแนะนำในกล่องผลิตภัณฑ์ ทานวันละ 1 ครั้ง ครับ หากดีขึ้นแล้วทานซ้ำทุกสองถึงสามเดือนครับ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
ปกรณ์ ปานดำ
ผมเป็นต้อกระจกครับ กินแล้วก็ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างชัดเจน ผมเป็นต้อกระจกระยะสุดท้ายมาก่อนตอนนี้สายตามองเห็นปกติ แถม ราคาประหยัด ใช้งานสะดวก ผมยัง Vizinex ให้กับคนที่ทำงานเพราะว่าถึงแม้ตายังไม่มีปัญหาแต่สามารถที่จะบำรุงหรือป้องกันสายตาได้ครับ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
อนุพงษ์ สุขทวี
มีส่วนผสมของเจลาติน หรืออะไรที่ทำมาจากสัตว์ไหมครับ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
นพ.สมพงษ์ ทองดี
สวัสดีครับ ตัวแคปซูลมีส่วนผสมของเจลาตินครับแต่แน่นอนว่าไม่เป็นอันตราย ละลายได้ง่ายด้วยน้ำย่อยในกระเพาะครับ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
ปวีณา อินทรสิริ
ทานก่อนหรือหลังอาหารคะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
นพ.สมพงษ์ ทองดี
ทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ครับ วันละ 1 ครั้ง
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
กมลพร เจริญวัฒนะ
พี่ทานแล้วช่วยพี่จากโรคต้อกระจกได้จริง ๆ ค่ะ ทานแค่เดือนเดียว ต้อกระจกหายไม่ต้องผ่าตัดเลย
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
ฐิติรัตน์ งามสง่า
ใช้ดีจริงไหมคะ เดี๋ยวจะลองใช้บ้าง
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
วรรณภา ประเสริฐสกุล
สามีเป็นโรคต้อกระจกตาแทบมองไม่เห็นอะไรเลย เห็นแค่ว่ามืดหรือสว่างอย่างเดียว ลูกสาวเลยซื้อผลิตภัณฑ์นี้มาให้ทาน แต่สามีใช้สามเดือนอาการถึงค่อย ๆ ทุเลาลง ขอบคุณผู้ผลิตและคุณยายมากค่ะที่ผลิตสูตรนี้ขึ้นมาได้
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
จรรยา หน่อกันทา
ขอบคุณค่ะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧
สมหมาย คล้ายประดิษฐ์
สั่งซื้อมาเรียบร้อยแล้วค่ะ
ชอบ ‧ ตอบ ‧ 0 ‧